การศัลยกรรมตัดถุงใต้ตาคืออะไร?
ศัลยกรรมตัดถุงใต้ตา (Lower Blepharoplasty) เป็นการผ่าตัดเพื่อลดหรือจัดการกับไขมันส่วนเกินใต้ตาที่ทำให้เกิดถุงใต้ตาบวม โดยอาจมีการจัดเรียงไขมันใหม่เพื่อสร้างความสมดุลและลดรอยคล้ำใต้ตา กระบวนการนี้ช่วยคืนความสดใสให้ใบหน้า และทำให้ดวงตาดูอ่อนเยาว์ขึ้น
ปัญหาของถุงใต้ตา: ทำไมจึงเกิดขึ้น
ถุงใต้ตาเป็นปัญหาที่หลายคนเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่นหรือผู้สูงอายุ ถุงใต้ตาเกิดจากการสะสมของไขมันบริเวณใต้ตา ซึ่งอาจมาจากการหย่อนคล้อยของผิวหนังหรือปัจจัยอื่น ๆ เช่น พันธุกรรมและไลฟ์สไตล์ ถุงใต้ตานี้สามารถแสดงออกได้หลากหลายรูปแบบ เช่น อาการบวม รอยคล้ำ และร่องลึกใต้ตา
ความต่างของปัญหาถุงใต้ตาเทียมและถุงใต้ตาแท้
ถุงใต้ตาที่ทำให้ใบหน้าดูหมองคล้ำและเหนื่อยล้า สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก คือ ถุงใต้ตาแท้ และ ถุงใต้ตาเทียม โดยแต่ละประเภทมีลักษณะและสาเหตุที่แตกต่างกัน
ลักษณะเด่นของถุงใต้ตาแท้
- มีลักษณะบวมอย่างถาวร แม้พักผ่อนเพียงพอ
- เกิดจากการสะสมของไขมันใต้ตาและผิวหนังหย่อนคล้อย
- สังเกตได้ชัดเจนเมื่ออายุมากขึ้น
ลักษณะเด่นของถุงใต้ตาเทียม
- มักเกิดจากพฤติกรรมหรือสภาพแวดล้อม เช่น การนอนน้อย หรือภูมิแพ้
- ลักษณะบวมจะเปลี่ยนแปลงตามการพักผ่อน
- อาจมาพร้อมกับรอยคล้ำใต้ตา
เทคนิคที่ใช้ในการผ่าตัด
External Incision: การเปิดแผลด้านนอก
เทคนิคการผ่าตัดถุงใต้ตาด้วยวิธี External Incision หรือการเปิดแผลด้านนอก เป็นวิธีที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาถุงใต้ตาหนัก หรือมีปัญหาผิวหนังใต้ตาหย่อนคล้อยมาก ซึ่งการผ่าตัดนี้จะช่วยทำให้ดูอ่อนเยาว์และสดชื่นขึ้น
Internal Incision : หารเปิดแผลด้านใน
สำหรับผู้ที่มีปัญหาถุงใต้ตาที่เกิดจากการสะสมของไขมันใต้ผิวหนัง แต่ไม่มีปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อย การผ่าตัดถุงใต้ตาด้วยเทคนิคการเปิดแผลด้านใน หรือ Internal Incision เป็นวิธีที่เหมาะสมและได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากแผลจะถูกซ่อนอยู่ภายใน ทำให้ไม่มีรอยแผลปรากฏให้เห็นด้านนอก
ผ่าตัดถุงใต้ตาช่วยแก้ไขปัญหาอะไรได้บ้าง?
✅ ถุงใต้ตาบวม จากการสะสมไขมันส่วนเกิน
✅ รอยคล้ำใต้ตา ที่เกิดจากการสะสมของไขมันหรือปัญหาโครงสร้างผิว
✅ ร่องลึกใต้ตา ที่ทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้า
✅ ผิวหนังใต้ตาหย่อนคล้อย จากอายุที่เพิ่มขึ้น
จุดเด่นของศัลยกรรมตัดถุงใต้ตา
- ปรับดวงตาให้ดูสดใสขึ้นทันที
- ผลลัพธ์ที่ยาวนาน ด้วยการจัดการปัญหาโครงสร้างอย่างตรงจุด
- ลดริ้วรอยและความหมองคล้ำ ใต้ดวงตา
- แผลเล็กและฟื้นตัวเร็ว เมื่อใช้เทคนิคสมัยใหม่
การดูแลก่อนและหลังการศัลยกรรม
ก่อนทำ
- หลีกเลี่ยงยาหรืออาหารเสริมที่ทำให้เลือดออกง่าย เช่น แอสไพริน หรือวิตามินอี
- งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ประมาณ 2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด
- แจ้งประวัติสุขภาพและโรคประจำตัวให้แพทย์ทราบ
หลังทำ
- ประคบเย็น ในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรก เพื่อลดอาการบวม
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณแผลและงดแต่งหน้าช่วงแรก
- นอนยกศีรษะสูงเพื่อลดอาการบวม
- ติดตามผลการรักษาและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่มีถุงใต้ตาบวมจนเห็นได้ชัด
- ผู้ที่มีรอยคล้ำใต้ตาจากปัญหาไขมันสะสม
- ผู้ที่ต้องการให้ใบหน้าดูสดใสและอ่อนเยาว์ขึ้น
- ผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรง และไม่มีโรคประจำตัวที่เป็นอุปสรรคต่อการผ่าตัด
