อยากทำนม จำเป็นต้องตรวจมะเร็งเต้านมก่อนไหม?
การจะเสริมหน้าอก ไม่ใช่ว่าอยากจะเสริมก็เสริมได้เลย!! เพราะการเสริมหน้าอก เป็นการเพิ่มขนาดของหน้าอกให้มีขนาดใหญ่มากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยทำให้หน้าอกเป็นทรง และกระชับมากยิ่งขึ้นอีกด้วย แต่สิ่งสำคัญของการเสริมหน้าอก ไม่ใช่แค่มีหน้าอกได้รูปสวยเท่านั้น แต่ความปลอดภัยหลังเสริมหน้าอกก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่จะต้องคำนึงถึง อีกหนึ่งปัญหาที่สำคัญสำหรับคนเสริมหน้าอกก็คือ “ปัญหามะเร็งเต้านม” เพราะถ้าหากเป็นมะเร็งเต้านม จะไม่สามารถทำการเสริมหน้าอกได้ดังนั้นใครที่ อยากทำนม ก็คงเคยได้ยินกันมาบ้างว่า หากจะเสริมหน้าอกจะต้องทำการตรวจมะเร็งเต้านมก่อน แล้วทำไมต้องตรวจมะเร็งเต้านมก่อนเสริมหน้าอกด้วย? ใครที่กำลังจะเสริมหน้าอก
วันนี้ Bujeong Clinic จะมาตอบข้อสงสัยเรื่องนี้ให้กับคุณ อย่ารอช้าไปอ่านบทความกันเลย!!
ก่อนจะเสริมหน้าอก ต้องรู้อะไรบ้าง ?
การเสริมหน้าอก เป็นการศัลยกรรมที่มีรายละเอียดมากกว่าแค่การอัพไซซ์ ให้หน้าอกมีขนาดใหญ่ และเป็นทรงมากยิ่งขึ้น ซึ่งก่อนที่จะเสริมหน้าอกได้นั้นก็มีสิ่งที่คุณควรจะรู้ และเป็นเรื่องที่สำคัญต่อการเสริมหน้าอก ให้อกมาสวย และปลอดภัย จะมีเรื่องอะไรบ้างไปดูกันเลย
- จุดประสงค์ในการเสริมหน้าอก ก่อนที่จะเสริมหน้าอกคุณควรที่จะรู้ก่อนว่าต้องการเสริมหน้าอกไปเพื่ออะไร เพราะการเสริมหน้าอกไม่ใช่แค่การเสริมให้หน้าอกใหญ่ขึ้นเท่านั้น บางคนก็ต้องการเสริมหน้าอกเพื่อให้หน้าอกอกชิดกันมากขึ้น หรือเพื่อแก้ปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อย เมื่อเรารู้จุดประสงค์ในการเสริมหน้าอกก็จะทำให้เราเสริมหน้าอกได้ตรงจุด และได้หน้าอกแบบที่เราต้องการมากยิ่งขึ้น
- การเช็คสภาพหน้าอกก่อนศัลยกรรม เมื่อเรารู้จุดประสงค์ในการเสริมหน้าอกแล้ว จากนั้นคุณจะต้องดูทรงหน้าอกของตัวเองว่าเป็นทรงแบบไหน เนื่องจากหน้าอกของแต่ละทรงจะมีรูปทรงที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงจำเป็นจะต้องตรวจสภาพหน้าอกให้ดีเสียก่อน นอกจากนั้นแล้วการเช็คสภาพหน้าอกยังทำให้เราทราบความผิดปกติของหน้าอกได้อีกด้วย ซึ่งสามารถทำได้หลายวิธี ตั้งแต่การตรวจคลำเบื้องต้น หรือการตรวจจากภายในอย่างการเอ็กซ์เรย์ หรือการอัลตร้าซาวด์ เพื่อให้ทราบความผิดปกติภายใน
- เลือกซิลิโคนที่มีความเหมาะสม นอกจากการตรวจสภาพของหน้าอกแล้ว การเลือกซิลิโคนก็ค่อนข้างมีความสำคัญมาก เพราะว่าถ้าเลือกซิลิโคนไม่เหมาะสม อาจทำให้เสริมหน้าอกออกมาไม่ดี และอาจส่งผลเสียมากกว่าที่คุณคาดคิด เช่น เลือกซิลิโคนที่มีขนาดใหญ่เกินไป หรือเลือกซิลิโคนไม่ดีจนทำให้ เกิดปัญหาหลังเสริมหน้าอกตามมา ดังนั้นจะต้องเลือกซิลิโคนให้ดีทั้ง
- รูปแบบของการผ่าตัด และการดูแลรักษาหลังผ่าตัด นอกจากการเลือกซิลิโคนให้ดีแล้ว รูปแบบของการเสริมหน้าอกก็ต้องเลือกให้ดี เพราะการเสริมหน้าอกก็จะมีทั้งตำแหน่งของการผ่าตัด รวมถึงรูปแบบการผ่าตัด ซึ่งหากเลือกไม่ดี และดูแลตัวเองหลังเสริมหน้าอกไม่ดี ก็จะทำให้เสริมหน้าอก ออกมาแล้วไม่ดี หรืออาจจะเกิดอาการแทรกซ้อน อาการหลังการผ่าตัดได้
สำหรับใครที่จะเสริมหน้าอก ก็มีสิ่งที่ควรจะรู้เพิ่มเติมเพื่อทำให้คุณสามารถตัดสินใจได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ซึ่งคุณสามารถเข้าไปอ่านได้ที่บทความด้านล่างนี้เลย
>> อ่านบทความ เรื่องควรรู้ก่อนตัดสินใจทำนม ได้ที่นี่ <<
อยากทำนม จำเป็นต้องตรวจมะเร็งเต้านมก่อนไหม ?
การเช็คสภาพหน้าอกก่อนศัลยกรรม ไม่ใช่แค่การเช็ครูปทรงของหน้าอก แต่ยังเป็นการเช็คความผิดปกติบริเวณหน้าอกอีกด้วย ซึ่งก่อนที่จะเสริมหน้าอกแพทย์จะให้เราทำการตรวจเช็คร่างกาย ตรวจเลือด ตรวจคลื่นหัวใจ ทำการเอ็กซ์เรย์ปอด และทำการตรวจมะเร็งเต้านม เพราะว่าหากไม่ทำการตรวจมะเร็งเต้านมก่อน หากเสริมแล้วเจอมะเร็งเต้านม ก็อาจก่อให้เกิดอันตรายในภายหลังได้ ดังนั้นคนที่จะเสริมหน้าอกจึงควรมีการตรวจมะเร็งเต้านมด้วย
ซึ่งการตรวจหามะเร็งเต้านมสามารถทำได้ตั้งแต่ การคลำเพื่อเช็คดูว่าเจอก้อนเนื้อ หรือกดแล้วรู้สึกเจ็บหรือไม่ นอกจากนั้นหากใครที่อยากตรวจให้แน่ใจ และละเอียดจริงๆ ก็สามารถไปโรงพยาบาลเพื่อทำการตรวจ ด้วยการเอ็กซ์เรย์ หรือทำการตรวจด้วยการอัลตร้าซาวด์ ก็จะทำให้สามารถตรวจมะเร็งเต้านมได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น เพื่อให้การเสริมหน้าอกออกมาปลอดภัย
ปัจจัยไหนที่ไม่ควรเสริมหน้าอก
ไม่ใช่ทุกคนจะสามารถเสริมหน้าอกได้ อย่างที่เราได้เน้นย้ำกันไปแล้วว่าความปลอดภัยในการเสริมหน้าอกจะต้องมาก่อน การเสริมหน้าอกเพื่อความสวยงาม เพราะหากเกิดเหตุร้ายแรงอาจส่งผลต่อสุขภาพ และชีวิตของผู้ที่ทำได้ ดังนั้นในการเสริมหน้าอก ก็จะมีบางกรณี และบางปัจจัยที่ห้ามเสริมหน้าอก เพราะอาจก่อให้เกิดอาการแทรกซ้อน หรืออันตรายขึ้นได้ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นโรคเหล่านี้
- เกิดการติดเชื้อภายในร่างกาย
- เป็นมะเร็งเต้านม หรือมะเร็งอื่นๆ (คนที่ต้องทำเคมีบำบัด )
- คนที่กำลังตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร
- คนที่เป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง หรือมีภูมิคุ้มกันไม่ดี
- คนที่มีอาการ หรือโรคเกี่ยวกับเลือด เช่น เลือดไหลไม่หยุด หรือเลือดแข็งตัวช้า
- ผู้ป่วยโรคซึมเศร้า รวมถึงโรคที่เกิดความผิดปกติทางด้านจิตเวชอื่นๆ ด้วย
เนื่องจากผู้ป่วยด้วยโรคเหล่านี้ เมื่อทำการผ่าตัดเสริมหน้าอกมักจะมีความเสี่ยงให้เกิดอันตรายได้สูง และอาจเกิดโรคแทรกซ้อนขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดบวม หรือเจอก้อนเนื้อบริเวณหน้าอก รวมถึงอาจส่งผลต่อรูปทรงของหน้าอก ไม่ว่าจะเป็นขนาดหน้าอกที่อาจจะไม่สมมาตร หรือเกิดการรั่ว การแตกของซิลิโคนหน้าอก ดังนั้นหากเป็นโรคเหล่านี้ควรจะแจ้งกับแพทย์ก่อนการเสริมหน้าอก เพื่อให้แพทย์ได้ประเมินอาการ แต่หากแพทย์ประเมินว่าเสริมได้ ก็สามารถทำการเสริมหน้าอกได้
>> อ่านบทความ วิธีรับมือกับปัญหาหลังเสริมหน้าอกต่างๆ ได้ที่นี่ <<
การปฏิบัติตัวก่อนเสริมหน้าอก
สำหรับใครที่ตรวจมะเร็งเต้านมแล้วไม่พบมะเร็งก็สามารถเสริมหน้าอกได้ แต่ก่อนที่จะเสริมหน้าอกการปฏิบัติตัวก่อนการศัลยกรรมก็ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กัน เพราะหากเราปฏิบัติตัวก่อนเสริมหน้าอกได้ดี และถูกต้อง ก็จะทำให้การเสริมหน้าอกออกมาดี และปลอดภัย แต่ก็มีหลายคนที่มักจะละเลยการปฏิบัติตัวก่อนการศัลยกรรม เพราะคิดว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญ มาดูกันดีกว่าว่าก่อนเสริมหน้าอกต้องปฏิบัติตัวอย่างไร
- ในช่วงก่อนการเสริมหน้าอก ควรจะดูแลสุขภาพให้แข็งแรง และนอนพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นฟูอย่างเต็มที่ และยังช่วยทำให้เมื่อผ่าตัดเสริมหน้าอกออกมาแล้ว แผลหายได้ไวมากยิ่งขึ้น เพราะร่างกายสามารถฟื้นตัวได้ดี
- ทำการตรวจสุขภาพ และเช็คความผิดปกติของร่างกายก่อนทำการเสริมหน้าอก โดยเฉพาะคนที่มีโรคประจำตัว หรือมีอาการแพ้ยาต่างๆ โดยเฉพาะกับการตรวจเช็คมะเร็งเต้านมก่อนทำการผ่าตัดเสริมหน้าอก และการตรวจเช็คส่วนอื่นๆ ด้วย
- งดการกินยา และอาหารเสริมทุกชนิดไปก่อน เพราะอาหารเสริมบางชนิด และยาบางตัวอาจส่งผลต่อการผ่าตัดได้ โดยเฉพาะยาในกลุ่มที่ช่วยละลายลิ่มเลือด อย่างเช่น ยากลุ่ม Aspirin หรือ Ibuprofen เป็นต้น เนื่องจากอาจทำให้เมื่อผ่าตัดเสริมหน้าอกไปแล้ว อาจทำให้เสียเลือดมาก หรือเลือดแข็งตัวช้าจนทำให้แผลผ่าตัดหายช้ากว่าปกติ ซึ่งจะทำให้การผ่าตัดเป็นไปได้ยาก และก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายจึง ควรงดทานยา และอาหารเสริมเหล่านี้ก่อนผ่าตัดเสริมหน้าอกประมาณ 2 สัปดาห์
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่ เนื่องจากเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดโรค อีกทั้งยังจะทำให้เมื่อเสริมหน้าอกออกมาแล้ว แผลหายได้ช้า และยังทำให้แผลที่เกิดขึ้นไม่สวย เนื่องจากแผลที่ได้จะเป็นแผลคีลอยด์ ที่มีลักษณะนูนขึ้นมา เนื่องจากในแอลกอฮอล์จะมีสารที่ไปทำลาย ส่วนที่ช่วยในการฟื้นฟูร่างกาย ดังนั้นจึงควรงดการดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่ก่อนที่จะเสริมหน้าอกประมาณ 2 สัปดาห์
- ในช่วงวันที่จะผ่าตัด จะต้องงดทานน้ำ และอาหารอย่างน้อย 8 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการสำลักอาหารในระหว่างการผ่าตัดด้วย
สำหรับคนที่จะเสริมหน้าอก หรือมีแพลนจะเสริมหน้าอก อย่าลืมที่จะให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเป็นอันดับแรก เพราะหากเกิดความผิดพลาดขึ้น จะส่งผลต่อสุขภาพ และชีวิตของเรา ดังนั้นการตรวจเช็คมะเร็งเต้านมก็นับว่ามีความสำคัญมาก ดังนั้นใครที่จะเสริมหน้าอกควรตรวจก่อนที่จะศัลยกรรม นอกจากนั้นก็ควรจะปฏิบัติตัวให้ถูกต้องด้วย
เพียงเท่านี้ก็จะช่วยทำให้การเสริมหน้าอกของคุณออกมาสวย และปลอดภัย แต่ก็ต้องเลือกเสริมหน้าอกกับคลินิกที่มีมาตรฐาน และแพทย์มีความเชี่ยวชาญ มีความชำนาญสูงอย่างที่ Bujeong Clinic คลินิกที่รวมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทั้งไทย และ เกาหลี ที่มากด้วยประสบการณ์ที่จะช่วยเนรมิตหน้าอกทรงสวยให้กับคุณ อยากมีหน้าอกสวยเลือกทำที่พูจอง!!!
อยากทำนม ต้องเลือกทำที่ Bujeong Clinic
Bujeong Clinic (ศูนย์ศัลยกรรมพูจองคลินิก) เป็นคลินิกเสริมความงาม ที่ให้บริการศัลยกรรม และ หัตถการ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และ มาตรฐานความปลอดภัย โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ทั้งแพทย์ไทย และ แพทย์เกาหลี ที่มากด้วยประสบการณ์ ที่พร้อมจะเนรมิตให้คุณสวยแบบที่ต้องการ นอกจากนั้นแล้วพูจองคลินิกยังมีสาขาให้เลือกมากมายถึง 10 สาขา ทั้งในกรุงเทพ และ ต่างจังหวัด เพราะความสวยไม่รอใคร อยากสวยเลือกทำที่ Bujeong Clinic !
มั่นใจ ปลอดภัย และ ได้มาตรฐาน พูจองคลินิกส่งตรงความงาม แบบฉบับเกาหลี
สามารถติดตาม Bujeong Clinic สำหรับเสริมความงาม ช่องทางต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่
Facebook : Bujeong Clinic – พูจอง คลินิก
Line : @Bujeong-Clinic
Tel : 088-050-1111
สามารถติดตาม Bujeong Clinic Surgery Center สำหรับศัลยกรรม ช่องทางต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่
Facebook : Bujeong surgery center
Line : @bujeongsurgery
Tel : 061-042-2999